วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การเลือกวื้อการ์ดเสียง




ขั้นแรกท่านควรรู้ก่อนว่าท่านจะนำ Sound Card (ซาวนด์การ์ด) นี้ไปใช้งานเกี่ยวกับประเภทใด เพื่อที่จะได้ Sound Card (ซาวนด์การ์ด) ที่เหมาะสมกับการใช้งานของท่าน เนื่องจาก Sound Card ก็เหมือนกับอุปกรณ์อื่น ซึ่งมีหลายรุ่น หลายความสามารถ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า และความต้องการที่หลากหลายกันออกไป หากท่านต้องการ Sound Card (ซาวนด์การ์ด) เพื่อนำไปใช้งานกับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการฟังเพลง เล่นเกมเล็กๆน้อยๆ เราคงไม่ต้องการ Sound Card (ซาวนด์การ์ด) ที่มีศักยภาพในการสร้างเสียงแบบ 3 มิติที่ให้เสียงที่กระหึ่มและมีความสมจริงเท่าไหร่นัก Sound Card (ซาวนด์การ์ด) แบบหลายๆ แชนแนลที่มีระบบสามมิติในแบบต่างๆ ก็ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้กับงานแบบนี้ แต่ถ้าต้องการเสียงที่มีความสมจริงมากขึ้น สามารถสร้างเสียงที่มีมิติ มีความไพเราะและความหนักแน่นจากเสียงที่ได้จาก Sound Card (ซาวนด์การ์ด) Sound Card (ซาวนด์การ์ด) แบบหลายแชนแนล จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เหมาะสำหรับบบรรดาคอเกมและคอเพลงทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งนักดนตรีทั้งหลายที่หวังจะใช้ Sound Card (ซาวนด์การ์ด) นี้ในการอัดเพลงต่างๆ เพื่อให้เสียงที่ได้ดังมีคุณภาพ งบประมาณเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการที่จะซื้อ Sound Card (ซาวนด์การ์ด) ไว้ใช้งานกัน การลงทุนเพื่อแลกมาด้วยระบบเสียงที่มีคุณภาพระดับ High End คงจะต้องแลกกับงบประมาณที่สูงมาก บางทีอาจซื้อเครื่องใหม่ได้เลย หากคุณไม่ใช่คอเกมหรือคอเพลงขนานแท้หรือมีเงินเหลือใช้เยอะๆ แล้วคงไม่ต้องลงทุนถึงขนาดนี้ก็ได้วิธีหา Sound Card (ซาวนด์การ์ด) มาใช้งานนั้น เมื่อท่านไปเดินตามตลาดไอทีต่างๆท่านคงจะพบว่าราคาของ Sound Card (ซาวนด์การ์ด) นั้นมีความแตกต่างกันมาก มีทั้งที่มีราคาไม่แพงมากไปจนถึงที่มีราคาแพงเป็นหมื่นก็มี แล้วท่านจะรู้ได้ไงว่า Sound Card (ซาวนด์การ์ด) อันไหนเหมาะสมกับท่านมากที่สุด ทางที่ดีท่านควรจะทดสอบด้วยการฟังจากหูตัวเองเป็นดีที่สุด เนื่องจากแต่ละคนก็จะมีการฟังและความชอบที่แตกต่างกัน ควรให้ทางร้านทำงานทดสอบเสียงให้ฟังเสียก่อน เพราะบางครั้ง Sound Card (ซาวนด์การ์ด) ที่มีราคาแพง เสียงที่ออกมาอาจไม่ถูกใจเราก็ได้ ซึ่งบางร้านอาจไม่ทดลองให้ฟังก็ได้ก็ได้ ดังนั้นจึงควรต้องสอบถามจากคนรู้จักหรือจากคนอื่น เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการเลือกซื้อต่อไปครับ
บทสรุป
อ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น